Search

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Shrek Forever After


วิจารณ์กันเลยนะครับ

Shrek เริ่มเรื่องด้วยการกลายมาเป็น ยักษ์ที่มีชีวิตที่แสนสงบสุข เป็นคุณพ่อที่แสนดี กับลูก ๆ ทั้งสาม เป็นที่รักของทุกคนในเมือง แต่จริง ๆ แล้ว Shrek อยากจะกลับไปเป็นยักษ์เหมือนเก่า
รัมเพลสติลท์สกิน จอมจ้อได้โอกาส จึงหลอกให้ Shrek เซ็นสัญญา ในงานวันเกิดของShrek ซึ่งทำให้เมือง ฟาร์ฟาร์อะเวย์เปลี่ยนไปจากเดิม
รัมเพลสติลท์สกิน กลาย เป็นพระราชา ยักษ์โดนตามล่า และทุก ๆ คนไม่มีใครรู้จัก Shrek แม้แต่ฟีโอน่า ก็จำไม่ได้


พล็อตเรื่องที่ดูง่าย ๆ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน การ์ตูนเด็กที่เดาตอนจบได้ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรื่องนี้
แม้พล็อตเรื่องจะธรรมดา แต่หนังกลับไม่ธรรมดา ด้วยฝีมือผู้กำกับ Mike Mitchell และ นักเขียน Josh Klausner และ Darren Lemke
ภาพและการเคลื่อนไหวของกราฟฟิกเนียนมาก เนื้อเรื่องมีการลำดับได้ดี ทำให้เข้าใจได้ง่ายแม้จะไม่ได้ดูภาคแรก ๆ มาก่อน มีการใช้เพลงประกอบกับการเล่าเรื่องตอนแรกได้อย่างลงตัว มีมุขให้ฮาได้ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ คือ เด็กก็จะฮามุกเด็ก แล้วผู้ใหญ่ก็จะฮามุกผู้ใหญ่ เนื้อเรื่องก็ไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด คือไม่มีเจ็บหนัก ไม่มีตาย เพราะฉะนั้นถ้าจะนำเด็กไปดูก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความรุนแรงในเรื่องแม้แต่น้อย
Shrek (voiced by Mike Myers) and Rumpelstiltskin (Walt Dohrn) in DreamWorks Animation’s “Shrek Forever After.”
หากใครได้ดูแบบเสียงภาษาอังกฤษ เจ้าลา โดย Eddie Murphy และเจ้าแมว พุช โดย Antonio Banderas นี่จะฮามากขอบอก โดยเจ้าแมว พุช อิน บูท ฮาได้ทุกตอนที่ออกมาเลยทีเดียว ซึ่งมางวดนี้ มันก็ไม่ได้ อิน บูท ดูแล้วนึกว่าเป็นการ์ฟิลมากกว่า

ส่วนเสียงของ ฟีโอน่า โดย Diaz นั้น น่าจะฟอร์มตกลงไปหน่อยละมั้ง ส่วนคนอื่น ๆ ทำได้ดี โดยเฉพาะ ตัวร้ายของเรื่อง รัมเพลสติลท์สกิน โดย Walt Dohrn สมบทบาทมากทีเดียว


ส่วนเสียงภาษาไทย ไม่ได้ไปดูมา ใครไปดูมาก็คอมเม้นท์ให้หน่อยก็แล้วกันนะ
ถ้าใครชอบการ์ตูนสนุก แบบเด็ก ๆ เรื่องนี้ก็น่าสนใจมากทีเดียว เพราะไม่ซับซ้อน ไม่ซ่อนเงื่อน ไม่มีปริศนาอะไรทั้งนั้น การ์ตูนเด็กอย่างแท้จริง
สรุป Shrek Forever After เป็นหนังที่น่าพาลูกพาหลานไปดูครับ

วิจารณ์โดย กะลาน้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น